ช่วงเทศกาลปีใหม่ เปลี่ยนใจจากการล่องใต้ไปสมุย
ตัดช่องน้อยผ่านมอร์เตอร์เวย์ฟรีมุ่งหน้าพัทยาเหนือ
เล็งมาที่ค่ายมวยแฟร์เท็กซ์

แม้ตอนวัยเยาว์จะใฝ่ฝันจะเป็นนักมวย
แต่น้ำหนักตัวตอนนี้ เกินเจ็ดสิบโลแล้ว ยากจะหาคู่ชก
จึงได้แต่มองนักมวยกอดรัดฟัดปล้ำ เตะกระสอบทราย
ส่วนตัวเอง แค่มาอาศัย
เพราะว่าใกล้ๆกับค่ายมวย มีสถานบำบัด หรือที่เรียกว่ารีทรีต
อาจแปลเป็นไทยง่ายๆว่า ปลีกวิเวก
คือหลบเร้น จากงานการ และที่สำคัญ คือหาช่วงที่ว่างเว้นจากการกิน

เหลือเพียงดื่มน้ำผลไม้ไม่หวานนัก และเครื่องดื่มบำรุงตับ
ขึ้นอยู่กับจิตและร่างว่า ต้องการพักร่าง สักกี่วัน
คอร์สทั่วๆไป ก็สามสี่วัน คงคล้ายๆมาปฏิบัติธรรมวิปัสสนา
ถ้าแก่กล้าก็ค่อยเพิ่มตามกำลัง

ความยากอยู่สองสามประการ
อย่างแรกคือ อดอาหาร การกินเป็นกิจวัตรที่ทำมาแต่อ้อนแต่ออด
นี่คือต้องงดอาหารที่เคี้ยว ดื่มได้แต่น้ำ
แต่ที่ยากกว่าอาหาร คืองดชากาแฟด้วย
สำหรับคนที่ติดคาเฟอินละก็ ขอบอกว่า ปวดหัวตึ๊บ
แต่มันก็จะทุเลาและหายไปได้ เมื่อผ่านเวลาสองสามวัน
แต่นั่นแหละ การอดอาหารว่าโหยแล้ว การขาดคาเฟอีนมีอาการ ลงแดงกว่า

ประการต่อมา คือการสวนลำไส้

สิ่งนี้ก็คงไม่คุ้นเคย และไม่ได้รับการรับรองอย่างออกหน้าออกตา
บางคนว่าแปลกดี สวนน้ำ สวนกาแฟ เข้าไปในลำไส้
แล้วขับถ่ายออกมาแบบนอนหงาย
ซึ่งก็ฝืนธรรมชาติปกติของมนุษย์ มันไม่คุ้นเอาเสียเลย

บางครา ขณะขับถ่าย มีพยาบาลมายืนนวดท้องให้
จะมองว่าสบายก็ดี สำหรับคนที่คุ้นเคย
แต่สำหรับคนที่ไม่เคยละก็ เป็นประสบการณ์ ชวนสะท้านจิตใจยิ่งนัก

จะทะยอยเล่าเท่าที่ มีคนสนใจ

แต่ถ้าต้องการคำตอบ หรือรายละเอียดมากไป

ก็คงจะบอกละเอียดไม่ได้
ถ้าอยากรู้จะแนะนำที่ถามให้อีกทีนะ
เบื้องต้น เคยทำที่ The Spa resort ซึ่งมีสาขา สมุย เกาะช้าง และเชียงใหม่
ต่อมาก็ Absolute Sanctuary เกาะสมุย
และล่าสุดที่มาลองคือ #Rasayana retreat พัทยาเหนือ