ตัด0คูณ3 คือการคิดเงินคร่าวๆ จากเงินเยนของญี่ปุ่นเป็นค่าเงินบาท
ลองถามน้องที่อยู่ ญี่ปุ่นนานๆ ว่า 5000เยน เท่าไหร่บาท
น้องบอกว่า หนูคิดไม่ได้ อยู่ญี่ปุ่นไม่เคยคิดเลยพี่
ถ้าคิดแล้วมันจะ กินข้าวไม่ลง
แต่เราคนไทย ไปแล้วก็ต้องคิด
จะกินลงไม่ลง ก็คงต้องคิด
การกดเครื่องคิดเลขมันก็ไม่ยาก
แต่ การคิดในใจ มันก็สนุกดี ผิดนิดผิดหน่อย
ก็ทดไว้เข้าข้างตัวเองว่าไม่แพงเท่าไหร่
อย่าง 5000เยน ก็ตัด0 ออกตัวนึงก่อน
เหลือ500 ที่นี้ก็เอา3 มาคูณ ได้1500
5000เยน ก็มีค่าใกล้เคียงกับ 1500บาท เป็นต้น
อย่างน้อย ก็ได้เอาคณิตศาสตร์ที่ครูเคยสอนไว้ ให้นำเอามาใช้
คนมักจะบอกว่า เรียนแล้วไม่ได้เอามาใช้ จริงๆบางครั้งเราก็ใช้โดยไม่รู้ตัว
ไม่ใช่เฉพาะคำนวณหรือคิดเงินเท่านั้น
แต่บางที แม้แต่ในชีวิตจริงๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับตัวเลข
เราก็นำเอาปรัชญาจากการเรียนคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
เราเปรียบเทียบความดีความเลวของอีกคนกับอีกคน
โดยบวกลบคูณหารพฤติกรรมของคนเหล่านั้น
ขนาดตอนนั้นเกิดเรื่องแบบนี้ ไอ้นั่นมันยังทำแบบนี้
ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ ไอ้นี่มันจะทำแบบไหน อะไรแบบนี้
และบางครั้งเราก็นำมาประเมินสถานการณ์ข้างหน้า
ด้วยการถอดสมการจากที่เคยเรียนคณิตศาสตร์มา
เราใช้การคำนวณตลอดการเดินทาง คำนวณเรื่องเวลา
ว่าแต่ละวัน เราจะเดินทางไปไหนได้บ้าง ด้วยรถไฟแบบไหน รถบัสแบบไหน
กระทั่งจะขึ้นกระเช้าลอยฟ้าและลงเรือ
ข้ามทะเลสาบก็คาบเกี่ยวกับเวลา และราคาเป็นสำคัญ
วันที่เราจะไปเมืองฮาโกเน่
เขามีบัตรขายแบบเหมาๆ รวมการเดินทางและการสัญจรด้วยพาหนะต่างๆในเมือง
มีให้เลือกซื้อเหมาๆ แบบ เที่ยวสองวัน กับสามวัน
ไอ้เราก็อยากเที่ยวแค่วันเดียว
จะไม่ซื้อสองวัน ก็กลัวว่าถ้าเที่ยวเพลินๆ จะเปลืองกว่า
แต่จะอยู่สองวัน ก็กลัวว่าจะยิ่งแพงค่าที่พักอาหาร
แถมยังคำนวณแล้วว่า ไม่อยากแบกกระเป๋าเสื้อผ้าไปพักค้าง
ให้มีนำ้หนักติดตัวมากมายขนติดไปเที่ยวด้วย
เพราะจะลำบากกับการขนย้าย
เอาเป็นว่า คิดคำนวณแล้ว เราต้องซื้อตั๋วเหมาเที่ยวแบบสองวัน
โดยตัดสินใจว่าจะเที่ยวแค่วันเดียวนี่แหละ เช้าจรดเย็น กลับตอนค่ำๆ
ดังนั้นก็ต้องเที่ยวให้คุ้มกับค่าบัตรที่จ่ายไป
เห็นไหมว่า วิชาคำนวณได้ใช้ โดยที่เราอาจไม่รู้ตัวว่ามันช่างมีคุณค่าเมื่อถึงเวลา
โชคดีเรามีเพื่อนชาวญี่ปุ่นคือคุณมะลิ เป็นคนนำทาง
คุณมาริ นั้นมาเที่ยวและทำงานแถวเชียงใหม่
ได้พบปะทักทายคุ้นเคยจน เอ่ยปากให้นำทัวร์ได้
การไปฮาโกเน่ นั้นไปไม่ยากนัก
ดูเหมือนการท่องเที่ยวจะส่งเสริม ไปไหนก็เห็นป้ายแนะนำให้ไป เพราะไม่ไกลจากโตเกียว
แต่ก็ไม่ง่ายแบบที่นั่งรถไฟทีเดียวถึง
เนื่องจาก ฮาโกเน่ เป็นเมืองหุบเขา เหมือนเราจะไป แม่แจ่ม สะเมิง
ต้องไปตั้งหลักที่เชียงใหม่ก่อน
คือต้องนั่งรถไฟจากเมืองโตเกียว ไปยังเมืองใหญ่อีกเมืองนึงก่อน
แล้วต่อรถไฟสายภูธร ก่อนจะย้ายไปขึ้นรถไฟที่ออกแบบไว้วิ่งขึ้นภูเขา
พอขึ้นไปบนดอยแล้ว เราก็ยังมีทางเลือกว่า
จะขึ้นรถบัสไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ หรือว่าจะขึ้นรถรางไต่เขาไป ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า
ไอ้เราก็อยากทั้งสองสามสิ่ง จึงต้องวิ่งแข่งกับเวลา
เพื่อจะให้ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าแล้วลงมาต่อเรือเที่ยวสุดท้าย
ในความหมายคือ
ใช้เวลาให้คุ้มค่า สมกับที่สัญจรมาฮาโกเน่
คำนวณเวลา แล้วยังต้องคำนวณราคา
บางครั้ง เราชะโงกหน้าไปซื้อตั๋วเพื่อจะเข้าชม พิพิธภัณฑ์เจ้าชายน้อย
เจ้าหน้าที่ถามกลับว่า จะดูพิพิธภัณฑ์แก้วใกล้ๆนี้ด้วยไหม
ถ้าดูด้วย ซื้อทีเดียวชมสองสถานที่จะลดราคาให้
อ้าว เอาไงดี จริงๆอยากดูที่เดียว แต่ดูสองที่ก็ได้ลดราคา คุ้มค่า
แต่เอ๊ะ งั้นเราซื้อแค่สองใบ สองคนดูเจ้าชายน้อย แล้ว สลับให้อีกสองคนไปดูแก้ว
สลับกัน ประหยัดเงินและเวลา
กระทั่งอารมณ์คือ เสียสละกันคนละหน่อย
ส่วนมะลิ คนพาเที่ยวบอกว่า ไม่ต้องดูเลยก็ได้
จะได้คอยดูแลอีกสองคนที่รออยู่ด้านนอก
จะได้พาไปหาที่นั่งที่กินและ ซื้อของที่ระลึกได้ไม่เสียเวลากันทุกฝ่าย
ด้วยความสามารถของมะลิ
ทำให้เราได้นั่งกระเช้าลอยฟ้า แต่ไม่มีเวลาพอจะแวะลงไปกินไข่ดำ ณ เหมืองกำมะถัน
แค่ลอยฟ้าผ่านกลุ่มควัน และมองลงไป เห็นคนอื่นๆหยุดพัก
เพราะเราต้องข้ามเขา เพื่อไปลงต่อล่องเรือ กลางทะเลสาบให้ทันเวลาก่อนฟ้ามืด
วิชาคณิตศาสตร์ช่วยให้การเดินทางของเราราบรื่น
ไม่ต้องมาถกเถียงกันให้เสียเวลา
เพราะเราใช้สมการของการคำนวณเชิงคณิตศาสตร์มาใช้ในการวางแผนจนดำเนินไปได้ด้วยดี
บางทีเราก็ตัดบางสิ่งที่น่าสนใจแต่ไม่มากนักออกไป
เช่นกินไข่ดำที่เขาร่ำลือว่า เปลือกดำด้วยกำมะถัน
สุดท้าย มะลิพาเรากลับเข้าเมืองโตเกียว
มะลิเดินทางเข้าเมืองเราถามว่า ไกลไหมมะลิ ต้องย้อนเข้าเมือง
ทั้งๆที่ ตอนกลับมา ก็เป็นทางผ่านบ้านมะลิที่โยโกฮาม่า อยู่แล้ว
มะลิบอกว่า ไกลอยู่
มะลิคงคำนวณระยะทาง กับความอร่อยของอาหารไทย
บวกลบด้วยมิตรภาพและความทรงจำที่เราจะได้เดินทางร่วมกัน
บวกลบคูณหารเทียบสมการแล้วคุ้มค่า กับการที่จะเข้าเมืองโตเกียว
มาเคี้ยวผัดกระเพรา ร่วมกับเรา
ไกลแต่ก็กิน
มะลิบอกเรายิ้มๆว่า จริงๆค่าไกด์แพงนะ
แต่แค่เลี้ยงข้าวผัดกระเพรามะลิก็ยิ้มกลับบ้านไป ในเวลาค่ำ