1.เก็บมาจากสมุดเล่มหนึ่ง
เนิ่นนานมาแล้ว สมัยผมเรียนป.6 โรงเรียนบ้านอ่างทอง
ครั้นเมื่อปิดเทอมปลายแล้ว อันที่จริงจะว่าปิดแล้วก็ไม่เชิง
คุณลองคิดดูซิ ผมสอบไล่เสร็จไปแล้ว (…ไล่แล้วนะคุณ)
อ.จ.แกยังดันสั่งไว้อีกว่า
“สอบเสร็จแล้ว พรุ่งนี้เธอมาเรียนตามปกตินะ บางตอนเธอยังเรียนไม่จบ ครูจะสอนแล้วทวนให้ด้วย”
(สงสัยเบื้องบนสั่งแกมายังงี้)
อะไรกันวะ โอยจะบ้าหรือไง
สอบแล้วยังเรียนอีก ผมไม่ยอมหรอก
ผมตะโกนลั่น ในใจ
“หวังว่าพวกเธอคงเข้าใจนะ ใครไม่มา จะไม่มีการตรวจข้อสอบให้ ถือว่าไม่ผ่าน “
“ไม่ผ่าน….ไม่ผ่าน ก็ตกนะสิ” (เอ๊ะไม่ใช่สิ ไม่ตกหรอกแค่อยู่ที่เดิมอีกปีนึง)
อจ.ขู่แค่นี้ เราก็ต้องจำยอมอยู่แล้ว
แต่แล้ว ผมไปเรียนได้ไม่กี่วัน ก็มีอันไม่ต้องไปเรียน
แม่ผมไปโรงเรียนขออณุญาตเรียบร้อยเหตุเพราะว่า
ญาติคนนึงไม่สบายรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพ
พ่อกับแม่จะพาผมและพี่ๆไปเยี่ยม
โอย ตอนนั้นผมดีใจจริงๆ ความรุ้สึกของเด็กๆนี่ครับ
ไหนจะไปกรุงเทพ มิหนำซ้ำยังไม่ต้องเรียน
(ไอ้เด็กเวร ตอนนั้นไม่คิดถึงญาติ)
แล้วผมก็ได้ไป กรุงเทพ ลืมไปแล้วว่ากรุงเทพมันเป็นยังไง
จำได้แต่ สะพานลุงธน แห่งหนึ่งละ ก็ชื่อเหมือนลุงผมเลยนี่
(จริงๆสะพานชื่อกรุงธน)
อย่าดีกว่า ผมไม่เขียนถึงกรุงเทพ กรุงธนดีกว่า
ผมไม่ได้รักกรุงเทพ เหมือน นักเขียนคุณที่ชื่อ สุวรรณีแกหรอก
ให้ผมอยู่นะพออยู่ได้ แต่ให้ผมรักละก็ ให้ผมรัก อาภัสสรา ตอนอายุ 80ดีกว่า